วิเคราะห์หลังเกมฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีม สเปน VS โครเอเชีย

สำหรับแมตซ์เมื่อคืนขอยกให้เป็นเกมระดับห้าดาวของฟุตบอลยูโร 2020 ในครั้งนี้ระหว่าง “กระทิงดุ” ทีมชาติสเปน พบกับ “ตราหมากรุก” ทีมชาติโครเอเชีย ก่อนอื่นต้องขอชื่นชมสปิริตของทั้งสองทีมที่เล่นกันได้อย่างสุดมันส์ แม้ว่าทางฝั่งโครเอเชียจะไล่ตีเสมอไปได้ก่อนหมดเวลา 90 นาที 3-3 แต่ก็เป็นทางด้านสเปนที่มีพละกำลังที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด สามารถยิงประตูคืนไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

ระบบแผนการเล่นของสเปนและโครเอเชีย รอบ 16 ทีมของการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020

ทีมชาติโครเอเชีย

ทั้งสองทีมใช้แผนการเล่นในระบบ 4-3-3 เหมือนกัน แต่ทางด้านโครเอเชียโชคร้ายที่ต้องขาดปีกสกิลสูงอย่าง อิวาน เปริซิซ เนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 แถม เดยัน ลอฟเรน ก็มาติดโทษแบนจากเกมที่แล้วอีก ทำให้ขาดช่องโหว่ที่จะทำให้มีความเสียเปรียบในเกมนี้ไม่น้อย

อย่างไรก็ตามก็ยังมี ลูก้า โมดริช ที่เป็นหัวใจหลักควบคุมตรงแดนกลางไปพร้อมกับ มาเตโอ โควาซิซ และมาร์เชโล โบรโซวิซ ที่คอยเกื้อหนุนในแผงมิดฟิลด์เช่นกัน ส่วนหน้าสามประสานเป็น บรูโน่ เพตโควิช , นิโกลา วลาซิซ , อันเต เรบิช ตัวผู้เล่นในเกมรุกของโครเอเชียก็ถือว่าไม่เลวและยังมีสไตล์ความดุดันอยู่เหมือนเดิม

ทีมชาติสเปน

ในเกมนี้ หลุยส์ เอ็นริเก้ ผู้จัดการทีมของสเปน ส่งตัวเจ้าหนู เปดรี้ ลงสนามเป็นตัวจริง ซึ่งเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลยูโรที่ลงเล่นในรอบน็อคเอ้าท์ ทำลายสถิติเก่าของ เวยน์ รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ด้วยวัยเพียง 18 ปี 215 วัน

ส่วนในกองหลังวันนี้อิมพอตตำแหน่งเซ็นเตอร์มาจากสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่าง เอริค การ์เซีย กับ อายเมอริค ลาปอร์กต์ ขยับขึ้นมากองกลางก็ยังเป็น เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ที่คอยควบคุมปัดกวาดในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยมมาหลายเกม ตามด้วยหน้าเป้าสารพัดประโยชน์ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ยังได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวจริงอยู่อย่างเคย ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้ทำประตูเสียเท่าไหร่

ทำไมสเปนถึงเป็นฝ่ายเอาชนะโครเอเชียได้ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมครั้งนี้

ถึงแม้ว่าทีมชาติสเปนจะเป็นฝ่ายถูกนำไปก่อนจากจังหวะที่ เปดรี้ จ่ายบอลคืนหลังให้ อูไน ซีม่อน ผู้รักษาประตูของสเปน แต่ดันจับบอลพลาดจนไหลเข้าประตูตัวเองไปแบบง่ายๆ ทำให้จากรูปเกมที่ได้เปรียบ กลายเป็นโดนบอลที่ได้ใจของโครเอเชียบุกซ้ำเพื่อจะเอาลูกที่สองแบบหวุดหวิดไปมา แต่ด้วยความที่นักเตะกระทิงดุยังเล่นตามแผนของเอ็นริเก้อย่างเคร่งคัด ทำให้สามารถกลับมาตั้งตัวและยิงคืนได้สำเร็จ

ความสดของนักเตะสเปนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บดขยี้โครเอเชียซ้ำสองในช่วงต่อเวลาพิเศษได้อย่างหมดจด แน่นอนว่าในเกมนี้มีดราม่าในช่วงก่อนหมดเวลา 90 นาที ทางฝั่งทัพตราหมากรุกไล่ตีเสมอได้สำเร็จจนต้องเล่นช่วงต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งละ 15 นาที จะเห็นได้ชัดเลยว่านักเตะโครเอเชียแรงหมด โดยเฉพาะกัปตันทีมคนสำคัญอย่าง โมดริช ที่มีอายุปาเข้าไปแล้ว 35 ปี

ในทางกลับกันทัพกระทิงดุยิ่งเล่นก็ยิ่งดุสมชื่อ วิ่งไม่มีหมดทุกตำแหน่งสร้างความปั่นป่วนให้โครเอเชียจนได้ประตูเพิ่มมาอีกสองลูก 5-3 โดยเฉพาะ โมราต้า มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมาก แม้จะยิงได้ลูกเดียว แต่ก็ถือว่าเป็นประตูสำคัญในเกมนี้เลยทีเดียว