“ฟุตบอลทีมชาติอิตาลี” คุณค่าที่คู่ควรแชมป์ยูโร 2020

ขอแสดงความยินดีกับแชมป์ยูโร 2020 ทีมชาติอิตาลีที่สามารถคว้าถ้วยที่ยิ่งใหญ่ในยุโรปได้สำเร็จ พวกเขาคู่ควรกับการเป็นเบอร์หนึ่งทีมชาติในยุโรป ณ ตอนนี้มากที่สุดแล้ว ฟุตบอลทีมชาติอิตาลีสอนให้รู้ว่าความล้มเหลวในอดีตไม่ใช่อุปสรรคต่อการหาความสำเร็จในปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะต้องใช้เวลาอย่างยาวนานก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วความพยายามทำงานให้หนักทุกวันจะนำพาไปสู่หนทางแห่งชัยชนะได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ความล้มเหลวในอดีตสู่ความยิงใหญ่ในศึกยูโร 2020

หลายคนคงจำได้จากเหตุการณ์วันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 ในเกมที่อิตาลีพบกับสวีเดน เป็นเกมชี้ชะตาที่จะต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียว เนื่องจากเกมแรกสวีเดนไปฝ่ายเอาชนะไปได้ 1-0 ผลสุดท้ายเจาะแผงรับไม่เข้าเสมอ 0-0 ต่อหน้าแฟนบอลอิตาลี 74,000 ชีวิต ที่สนามซานซิโร่ ประเทศอิตาลี ตกรอบสุดช็อคในรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปี อดไปแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซียอย่างน่าเสียดาย

เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในวันนั้นคงจะหนีไม่พ้นน้ำตาที่ไหลออกมาจากลูกผู้ชายของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ตำนานผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทัพอัซซูรี่ ซึ่งเป็นเกมสุดท้ายของเจ้าตัวในวันนั้น เพราะก่อนหน้านี้ได้ออกมาประกาศอำลาแล้วว่า ทัวร์นาเมนท์ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย จะเป็นรายการสุดท้ายในการรับใช้ทีมชาติ แต่สุดท้ายก็ต้องมาจบแบบหัวใจแหลกสลาย

ต่อมาการปฏิรูปฟุตบอลทีมชาติจึงได้เริ่มเกิดขึ้นทันที แน่นอนว่าการเปลี่ยนผู้จัดการทีมคือขั้นตอนแรก และขั้นตอนต่อไปคือการหาผู้จัดการทีมคนใหม่ ซึ่งในตอนแรกแฟนบอลต่างก็เรียกร้องเป็นเสียงเดียวกันให้เชิญ อันเช ล็อตติ มาเปลี่ยนแปลงทีมโดยด่วน แต่สุดท้ายกลายเป็น โรแบร์โต มันชินี่ มาคุมทีมแทนด้วยสไตล์และจุดเด่นของโค้ชวัย 56 ปี ได้พลิกโฉมใหม่วิธีการทำทีมที่เข้ากับยุคสมัยขึ้นกว่าเดิม

อิตาลีในอดีตที่เน้นเกมรับที่แข็งแกร่ง ได้เพิ่มศักยภาพเกมรุกที่ดุดันสนุกตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา ในระยะเวลา 3 ปี เปลี่ยนอิตาลีในยุคที่ตกต่ำไม่ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก กลายเป็นทีมที่ชนะติดต่อกันมาแบบไร้พ่ายจนคว้าแชมป์ยูโร 2020 ได้อย่างไร้ข้อกังหาเหมาะสมกับสถิติไร้พ่าย 33 เกมอย่างยอดเยี่ยม

มาถึงตอนนี้นักเตะกับสต๊าฟโค้ชต่างก็รีบแพ็คกระเป๋ากลับบ้าน และนำถ้วยแห่งเกียรติยศในยุโรปกลับไปให้แฟนบอลอิตาลีที่กำลังรอกันทั้งประเทศได้ชื่นชมกันอย่างมีความสุข ส่วนไฮไลท์เด็ดที่กำลังเป็นกระแสตอนนี้คือถ้อยคำ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ปราการหลังจอมเก๋าที่ยิงตีเสมอ 1-1 ได้เปล่งเสียงตะโกนดังๆ ใส่กล้องที่กำลังถ่ายทอดสดว่า “It’s coming Rome” ที่มาจากท่อนเพลงเชียร์ของแฟนบอลอังกฤษ “It’s coming home” เพื่อตอกย้ำว่าพวกเขาคืออิตาลีแชมป์ฟุตบอลยูโร 2020 ณ ตอนนี้